พระโพธิสัตว์กวนอิม เดิมเป็นเทพธิดาที่มาจุติยังโลกมนุษย์ เพื่อมาช่วยปลดเปลี้องทุกข์ภัยแก่มวลมนุษย์ ท่านเป็นราชธิดาองค์ที่สามของกษัตริย์เมี่ยวจวง ซึ่งมีราชธิดา 3 องค์ องค์โตชื่อ เมี่ยวอิม องค์รองชื่อ เมี่ยวหยวน องค์ที่สามชื่อ เมี่ยวซ่าน คือ พระโพธิสัตว์กวนอิมนั่นเอง ตอนเยาว์วัยท่านเป็นพุทธมามกะ มีความรู้แจ้งในหลักพุทธธรรมอย่างลึกซึ้ง ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่ที่จะบำเพ็ญภาวนา เพื่อความหลุดพ้นจากสังสารวัฏ ตอนนั้น พระเจ้าเมี่ยวจวงไม่เห็นด้วยกับความ ประสงค์ของราชธิดา จะบังคับให้เลือกราชบุตรเขย เพื่อจะได้สืบทอดราชบังลังก์ต่อไป แต่องค์หญิงสามไม่สนพระทัยเรื่องลาภยศสรรเสริญอันจอมปลอม ซึ่งแม้จะถูกพระบิดาดุด่าอย่างไร องค์หญิงก็ไม่เคยนึกโกรธเคืองแต่อย่างใด ต่อมาองค์หญิงสามได้ถูกขับไปทำงานหนักในสวนดอกไม้ เช่น หาบน้ำ ปลูกดอกไม้ ทั้งนี้เพื่อทรมานให้เปลี่ยนความตั้งใจแต่ก็มีเหล่ารุกขเทวดามาช่วยทำงานให้ทั้งหมด พระบิดาเมื่อเห็นว่าไม่ได้ผล จึงรับสั่งให้หัวหน้าแม่ชีนำองค์หญิงไปอยู่ที่วัดนกยูงขาวและให้เอางานของแม่ชีทั้งวัดมอบให้องค์หญิงทำคนเดียว แต่องค์หญิง ก็มีพระทัยเด็ดเดี่ยวไม่เปลี่ยนแปลง งานการต่างๆ ก็มีเหล่าเทวดามาช่วยทำแทนให้อีก พระเจ้าเมี่ยวจวงเข้าใจว่า พวกแม่ชีไม่กล้าเคี่ยวเข็ญใช้งานหนัก ก็ยิ่งกริ้วหนักขึ้น สั่งให้ทหารเผาวัดนกยูงขาวจนวอดเป็นจุณไปพร้อมกับพวกแม่ชีทั้งหมด มีแต่องค์หญิงสามเท่านั้นที่ปลอดภัยรอดชีวิตมาได้พระเจ้าเมี่ยวจวงทราบดังนั้น จึงสั่งให้นำตัวราชธิดาไปประหารชีวิต ตอนนั้นมีเทพารักษ์คอยคุ้มครององค์หญิงสามอยู่ โดยเนรมิตทองคำทิพย์เป็นเกราะหุ้มตัว คมดาบของนายทหารจึงไม่อาจระคายพระวรกาย จนดาบหักสะบั้นถึง 3 ครั้ง 3 ครา พระบิดาทรงกริ้วยิ่งนัก โดยเข้าใจว่า นายทหารไม่กล้าประหารจริง จึงให้ประหารนายทหารแทน แล้วรับสั่งให้จับองค์หญิงไปแขวนคอ ทว่าผ้าแพรที่แขวนคอก็ขาดสะบั้นลงอีก ทันใดนั้นปรากฏมีเสือเทวดาตัวหนึ่งได้นำองค์หญิงขึ้นพาดหลังแล้วเผ่นหนีไปที่เขาเซียงชัน

ต่อมา เทพไท่ไป๋ ได้แปลงร่างเป็นชายชรามาโปรดองค์หญิง ชี้แนะเคล็ดวิธีการบำเพ็ญเพียรเครื่องดับทุกข์จนสามารถบรรลุมรรคผลสำเร็จธรรม

ข้างฝ่ายพระบิดาเข้าใจว่าองค์หญิงถูกเสือคาบไปกินเสียแล้ว จึงไม่ได้ติดใจตามราวีอีก ต่อมาไม่นาน บาปกรรมที่พระองค์ก่อไว้ได้ส่งผล กษัตริย์เมี้ยวจวงเกิดป่วยด้วยโรคร้ายแรง ไม่มียาใดที่จะสามารถรักษาให้หายได้ องค์หญิงได้ทรง
ทราบด้วยญาณวิถีว่า พระบิดากำลังประสบเคราะห์กรรมอย่างหนัก ด้วยความกตัญญูกตเวทีเป็นเลิศ มิได้ถือโทษโกรธเคืองการกระทำของพระบิดาแม้แต่น้อย ทรงได้สละดวงตาและแขนสองข้างเพื่อรักษาพระบิดาจนหายจากโรคร้าย องค์หญิง
เมี่ยวซ่านนั้น ตอนแรกเป็นชาวพุทธ ตอนหลังเทพไท่ไป๋ได้มาโปรดชี้แนะหนทางดับทุกข์ ด้วยเหตุนี้ พระโพธิสัตว์กวนอิม จึงเป็นเทพทั้งฝ่ายพุทธ และฝ่ายเต๋าในขณะเดียวกัน

บทสวดขอพร พระโพธิสัตว์กวนอิม (ไต่สือ)

นำโมไต่ซื้อ ไต่ปุย กิ๊วโค่ว กิ๊วหลั่ง กวงไต่เหล่งก้ำ กวนซี้อิมผ่อสัก (กราบ)
นำโมไต่ซื้อ ไต่ปุย กิ๊วโค่ว กิ๊วหลั่ง กวงไต่เหล่งก้ำ กวนซี้อิมผ่อสัก (กราบ)
นำโมไต่ซื้อ ไต่ปุย กิ๊วโค่ว กิ๊วหลั่ง กวงไต่เหล่งก้ำ กวนซี้อิมผ่อสัก (กราบ)
นำโมฮุก นำโมฮวบ นำโมเจง นำโมกิ๊ว โค่ว กิ๊วหลั่งกวนซี้อิมผ่อสัก
ทั่งจี้โต โอม เกียล้อฮวดโต เกียล้อฮวดโต เกียออฮวดโต ล้อเกียฮวดโต
ล้อเกียฮวดโต ซำผ่อออเทียงหล่อซิ้ง ตี่หล่อซิ้ง นั้งหลี่หลั่ง หลั่งหลีซิง
เจ็กเฉียกใจเอียงห่วยอุ่ยติ้ง นำมอมอออ ปอเยปอหล่อบิ๊ก (กราบ)

ใจความสำคัญ ของมนต์ขอพรพระโพธิสัตว์กวนอิม

ขอนอบน้อมพระโพธิสัตว์กวนอิม พระผู้เปี่ยมล้นด้วยมหาเมตตามหากรุณาอันยิ่งใหญ่ไพศาล ขอได้โปรดบำบัดทุกข์โศก โรคภัยอันตรายทั้งปวง

ข้าพเจ้าขอน้อมถึงพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ พระโพธิสัตว์กวนอิม ขอได้โปรดขจัดปัดเป่าทุกข์โศก โรคภัยทั้งปวงให้หมดสิ้นไป ขอความสุข สมปรารถนาทุกประการจงมีแด่ข้าพเจ้า ขอเทพเจ้าอยู่เบื้องบนและเทพเจ้าที่อยู่ เบื้องล่างทั้งหมดได้โปรดปัดเป่าให้เวรกรรมและสรรพเคราะห์ทั้งมวลจงหมดสิ้นไป